ผมเชื่อว่า บางคนยังโปรโมทโพสต์ไม่ค่อยได้ผล คือโปรโมทไปก็ไม่โดนกลุ่มลูกค้าเราสักที
ทำให้ยอดขายไม่ดีขึ้น พอไปเจอที่คนอื่นสอนก็รู้สึกว่ายาก งั้นวันนี้มาดูวิธีที่ง่ายกว่าที่คนอื่นเขาสอน
แต่ได้ผลดีคล้ายๆ กัน ไปดูกันครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยโปรโมทโพสมาทุกรูปแบบแล้ว
และผมคิดว่ามือใหม่บางคนยังโปรโมทโพสแบบสุ่มๆไป
ทำให้เสียเงินไปมากกว่าที่ควรจะเป็นแถมยังไม่ได้โพสไปเจอกลุ่มลูกค้าของเราด้วย
เช่น เราขายครีมหน้าขาวสำหรับผู้หญิง
แต่ตอนโปรโมทกลับโฆษณาไปหาทั้งผู้ชายและผู้หญิง
เมื่อถึงผู้ชาย เขาก็ไม่สนใจก็เสียตังฟรีไงครับ
นี่แหล่ะครับถ้าเราไม่กำหนดสิ่งที่เราต้องการลงไปก็จะได้ผลลัพธ์ที่ออกมามีแต่คนเห็น
แต่ไม่มีคนซื้อนั่นเอง
6 ขั้นตอนโปรโมทโพสต์ Facebook แบบง่ายๆ แต่ได้ผล
1. ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ต้องงงครับ ว่าทำไมข้อแรกถึงพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าทำในคอมพิวเตอร์
มันง่ายและละเอียดกว่าไงครับ มันสามารถที่จะปรับแต่งอะไรได้หลายอย่างที่มือถือทำไม่ได้
แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็แนะนำใช้ App
ชื่อว่า Facebook Adsmanager จะได้สามารถปรับแต่งอะไรได้มากขึ้น
2. กดไปที่โปรโมทโพสต์ หลายคนบอกไม่ให้ใช้ปุ่มนี้ แต่ถ้ามันไม่มีเวลา
ต้องการความง่ายและรวดเร็ว อันนี้ก็ให้ผลดีนะครับแต่ต้องมีการปรับค่าต่างๆ ด้วย
3. จะเข้ามาเจอหน้านี้ ให้ทำการปรับตรงปุ่มลงทะเบียน
เป็นสิ่งที่เราต้องการให้ลูกค้าคุณกดเพื่อเข้ามาที่โพสต์เราครับ
เลือกคำที่รู้สึกยั่วยวนการกด (555 ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรถึงจะสื่อได้ตรงใจเท่าคำนี้)
มากที่สุดสำหรับโพสต์ของคุณครับ หรือไม่ใช้ปุ่มก็ได้
แต่ผมแนะนำว่ามีดีกว่าครับ มันน่ากดมากกว่านะ
4. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
- กำหนดเพศ อย่างที่บอกไปครับ ผู้ชายหรือผู้หญิงที่เป็นลูกค้าของเรา เราก็เลือกไปเลยครับ
- เลือกอายุ
- กำหนดพื้นที่เป้าหมาย เราสามาถเลือกเป็นจังหวัดได้ หรือเลือกทั้งประเทศเลยก็ได้ หรือมีลูกค้าต่างประเทศก็เลือกได้โดยใส่ประเทศนั้นๆ เข้าไปเลยครับ ในที่นี่ผมเลือกทั้งประเทศไทยครับ แต่ใครที่มีหน้าร้าน ซึ่งไม่ได้ส่งของทางเน็ท อาจจะลงเป็นพื้นที่ใกล้เคียงของเราก็ได้ ไม่ใช่อยู่ กทม แต่ไปลงโฆษณาให้คนเชียงใหม่ เมื่อไรเขาจะขับรถมากินก๋วยเตี๋ยวร้านคุณล่ะครับ
- กำหนดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายของเรา เช่น ถ้าขายสบู่ กลุ่มเป้าหมายจะเป็นใครได้บ้าง เป็นคนชอบการแต่งตัวใช่ไหม หรือเป็นคนรักสวยรักงามใช่ไหม เราก็เลือกไปครับว่ากลุ่มเป้าหมายของเราชอบอะไรที่ใกล้เคียงกับของที่เราขายบ้าง เพราะไม่ใช่ว่าเขาจะชอบแต่สบู่แต่คนกลุ่มนี้น่าจะชอบอื่นๆ ที่ใกล้เคียงด้วยครับ
5. กำหนดค่าใช้จ่าย
ในที่นี้เราจะกำนหดค่าใช้จ่ายแบบเหมารวม คือถ้าเราเลือก 7 วัน
เรายอมจ่ายเท่าไร ในที่นี้ลงไว้ 710 บาท
ซึ่งจะบอกว่าจะมีโอกาสที่คนจะเห็นโพสของเรากี่คน
ที่นี่บอกไว้ 10000 – 27000 คน ยิ่งเราจ่ายมากก็มีโอกาสที่คนจะเห็นมาก
เราก็ต้องคิดดูว่าค่าโฆษณามันคุ้มค่าต่ออัตรากำไรของสินค้าเราด้วยหรือไม่
แต่แรกๆ ผมแนะนำว่าลองจำนวนเงินน้อยๆ ก่อนครับ
แล้วดูอัตรา Like แชร์ คอเม้น ว่ามีมากน้อยแค่ไหน
ถ้าเข้ามาอัตราต่อ Like ราคาถูกแสดงว่ามาถูกทางละครับ
6. ลองดูว่าลักษณะการโฆษณาของเรานั้น บนคอมพิวเตอร์ และบนมือถือ OK หรือไม่ ถ้า OK แล้วก็กด โปรโมท เป็นอันจบครับ
*มีคนถามเข้ามาว่า การคิดค่าโปรโมทกับทาง Facebook นั้นคิดอย่างไร
เราจะยกเลิกก่อนหมดเวลาจะเสียเงินไปทั้งหมดเลยไหม ตอบว่าไม่ครับ
คือ Facebook จะคิดเป็นเวลาจริงที่มีการโปรโมทเกิดขึ้น
ถ้าเราหยุดโปรโมทเงินที่เสียไปก็จะเสียเท่าที่เราโปรโมทไปก่อนหน้านี้เท่านั้นครับ
และ Facebook ก็จะรวบรวมเป็นรายสัปดาห์เรียกเก็บเงินเรามาครับ
ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าโปรโมทไปแล้วไม่เวิคจะเสียตังมากมาย
ถ้าไม่เวิคก็แค่ปิดการโปรโมทก็จบละครับ
สรุปคือ ถ้าอยากลดค่าใช้จ่ายในการโปรโมทลงล่ะก็ ต้องลงรายละเอียดในการโปรโมทหน่อยนะครับ คือถ้าเราโฟกัสลงไปจะช่วยให้คนที่อยากได้ของของเรา มาเห็นโพสต์ของเราจริงๆ ครับ ขอให้โชคดีกับการขายนะครับ ^^
ถูกใจอย่าลืม Like ถ้าเป็นประโยชน์ก็แชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ้างนะครับ ^^
ติดตามพูดคุยกันได้ที่เพจ มีข้อมูลดีๆ อีกเยอะครับ
กดไลค์เป็นกำลังใจให้กันนะครับ
เห็นว่าเป็นประโยชน์ก็แชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันบ้างนะ
อยากให้คนไทยใช้ Tech ให้เป็น
มีข้อมูลดีๆ อีกเพียบที่
FB: Facebook Page
G+ : Google+
www : techdlife.com
Line : @techdlife
แอดรับบทความดีๆ จากเราครับ
Tech เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น
BenzTechDLife