จะดีแค่ไหน ถ้าทุกอย่างที่เราทำสามารถจัดการได้ด้วยปลายนิ้ว นี่เป็นหนึ่งในความน่าสนใจของ IoT หรือ Internet of Thing (อินเตอร์เน็ทออฟติง)
ใครไม่รู้จักถือว่าเชยมาก แต่ก็ว่าไม่ได้เนอะเพราะแต่ละคนก็ไม่ได้สนใจเทคโนโลยีเท่ากันซะเมื่อไร แต่ IoT เป็นสิ่งที่เริ่มเข้ามาในยุคของเราแล้ว และในอนาคตอันใกล้ จะมีกันใช้กันอย่างแพร่หลาย และหลายอย่างสามารถเปลี่ยนวิธีชีวิตของเราไปอย่างสิ้นเชิง
IoT คืออะไร
IoT คือการนำเอาเทคโนโลยีหรืออินเตอร์เนทเนี่ย เข้าไปบวกกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ให้ดียิ่งขึ้น ง่ายขึ้น ทันสมัยขึ้นนั่นเอง
มีอะไรบ้างที่ IoT เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแล้ว?
- Uber คือหนึ่งในบริการที่ดังระดับโลก สำหรับใครที่ยังไม่รู้ มันคือรถแท็กซี่ที่เรียกผ่าน Application โดยที่เราไม่ต้องมารอ เรียก แล้วแม่งก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ
- บ้านหรือคอนโดอัจฉริยะหรือที่เรียกว่า Smart Home สิ่งนี้เพิ่งเป็นสิ่งใหม่ที่มีการนำเอามาแสดงในหนังบ่อยๆ ถึงโลกอนาคต แต่เมื่อประมาณปีหรือ 2 ปีก่อนนี้เริ่มมีการนำเข้ามาใช้อย่างจริงจังบ้างแล้ว และมันเจ๋งมากๆ เพราะมันสามารถทำให้เราสะดวกสบาย เหมาะกับคนขี้เกียจอย่างผมเป็นที่สุด
- เช่น การตื่นเช้ามา กาต้มน้ำก็ต้มรอไว้แล้ว
- เดินออกจากบ้านมีรถขับมาจอดรอเองตามเวลาที่ตั้งไว้
- ออกมาทำงานก็มีสัญญาณแจ้งเตือนกันขโมย
- หรือแจ้งเตือนอุบัติเหตุที่ลูกหรือพ่อแม่ของเราที่อยู่ที่บ้าน
- กลับมาบ้านไฟฟ้าเปิดเองตามเวลาที่ตั้งไว้หรือกดผ่านมือถือ
- ก่อนนอนกดปิดไฟฟ้าและอุปกรณืต่างในการจิ้มที่จอมือถือเพียงครั้งเดียว
- การซื้อของออนไลน์ นี่เป็น IoT ระดับแรกๆ เลยที่มี
- รถยนต์ที่ขับได้เอง ถอยเข้าซองเอง
- เกษตรที่รถน้ำต้นไม้ด้วยโดรน หรือการจับความชื้นดินและรดน้ำต้นไม้เอง แหม่มันช่างสุดยอดมากๆ
จากที่บอกไปจะเห็นได้ว่าต่อไปเราอาจเป็นง่อยได้เลยทีเดียว 555 ก็มันแบบโคตรสบายจริงๆ IoT เป็นสิ่งที่สุดยอดแห่งอนาคต และเราจะต้องได้พบเจอมันอีกมาก
ผมอยากให้ใครก็ตามที่ไม่ได้ชอบเทคโนโลยีลองเปิดใจรับและอยู่กันมันให้ได้ ก็จะทำให้เราอยู่ได้อย่างมีความสุขครับ ส่วนใครที่ตามมาทีหลังก็ค่อยๆ ปรับตัวกันไป
และต่อไปจะมีคนดังเกิดขึ้นอีกมากจากเด็กยุคใหม่ เพราะคนที่มีไอเดียและลุยก่อนก็มีสิทธิ์รวยก่อน อย่างเช่นยุคสมัยของ Steve Job และ Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Apple และ Microsoft ที่ได้สร้างตัวเองขึ้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของยุคนั้น ส่วนคนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงก็ต่อพ่ายแพ้ไป และโดนบีบให้ต้องเปลี่ยนในที่สุด
ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ Blackberry ผมว่าหลายคนคงเคยได้ใช้กัน แต่ผมเองไม่เคยเพราะไม่ชอบปุ่มมันเยอะเกิ๊น เห็นได้ชัดว่าตอนนั้นเทรนของโทรศัพท์มือถือที่มีปุ่มเยอะแยะมากมายนั้น
เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็อยากได้ แต่เมื่อ
Apple บอกว่า ถ้ามันมีแค่ปุ่มเดียวล่ะ เย็ดเข้! ทั้งโลกตะลึง
ในไอเดียนี้ และผมได้ดูตอนที่ Iphone ตัวแรกเปิดตัว มันช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อโลกใบนี้อย่างมาก แต่ทาง Blackberry ยังคงคิดว่ามันเป็นเพียงความตื่นเต้นสั้นๆ แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะโทรศัพท์ Android ต่างๆ ก็พยายามเปลี่ยนตัวเองตาม Apple ให้ทัน ใครไม่ทันเตรียมลงหลุมไปได้เลย และแน่นอนว่า Blackberry ก็ไม่ยอมเปลี่ยนจนยอดขายตกหนัก ขาดทุนหนักมาก จนตอนนี้ก็เปลี่ยนมาทำโทรศัพท์ทัชสรีนในที่สุด
เห็นไหมครับ ถึงไม่อยากเปลี่ยนแต่โลกเปลี่ยน ถ้าเราไม่เปลี่ยนก็ต้องโดนบีบให้เปลี่ยนอย่างช่วยไม่ได้
ใครที่คิดว่าตัวเองมีไอเดียอะไร เริ่มเลยครับ เพราะมันถึงยุค IoT เรียบร้อยแล้ว ผมคงต้องขอบอกว่า
ยินดีต้อนรับสู่ยุค IoT อย่างเต็มรูปแบบ
ขอให้สนุกกันเทคโนโลยีรอบตัว เจอกันครั้งหน้า สวัสดีครับ
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้กันนะครับ
เห็นว่าเป็นประโยชน์ก็แชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันบ้างนะ
มีข้อมูลดีๆ อีกเพียบที่
สนับสนุนให้เราทำบทความดีๆ ต่อไปได้ที่อุปกรณ์กล้อง http://techdlifeshop.lnwshop.com/
FB: Facebook Page
FB: Facebook Page
G+ : Google+
www : techdlife.com
Line : @techdlife
แอดรับบทความดีๆ จากเราครับ
Tech เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น
BenzTechDLife